เรื่องราวในหนังสือนี้เป็นเรื่องของคุณใจรัก (ไกรฤกษ์) สนิทวงศ์ ณ อยุธยา แม่ของข้าพเจ้า ซึ่งมีอายุ ๙๙ ปี บริบูรณ์ใน พ.ศ. ๒๕๕๙ นี้
แม่เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๔๖๐ กลางรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. ๒๔๕๓ - ๒๔๖๘) ในสมัยที่ประเทศไทยยังปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศ คุณพ่อของแม่คือพระยาประเสริฐศุภกิจ ซึ่งเป็นมหาดเล็กที่ถวายงานรับใช้ใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้ตามเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรกใน พ.ศ. ๒๔๔๐
เจ้าจอมมารดาชุ่มในรัชกาลที่ ๕ (พี่สาวของพระยาประเสริฐศุภกิจ) เป็นคุณป้าของแม่ ท่านได้ถวายพระประสูติการแด่พระราชธิดา ๒ พระองค์ คือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภา และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุจิตราภรณี แม่เป็นชาววังอยู่ที่ตำหนักของเสด็จพระองค์อาทรฯ ในวังสวนสุนันทา ตั้งแต่อายุ ๕ ปี จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. ๒๔๗๕
[อ่านเพิ่ม]
ระหว่างอยู่ในวัง แม่ได้หัดละครกับเจ้าจอมมารดาเขียนในรัชกาลที่ ๔ และได้รำละครในบทต่าง ๆ ถวายเจ้านายในวังสวนสุนันทา และในโอกาสงานฉลองที่สำคัญอื่น ๆ
ตั้งแต่วัยเยาว์ แม่มีความผูกพันกับหัวหินมาก คุณตาเริ่มบุกเบิกหาซื้อที่และปลูกบ้านพักที่หัวหินใน พ.ศ. ๒๔๖๔ เมื่อครั้งหัวหินยังเป็นป่าโปร่งและเป็นที่อาศัยของสัตว์หลายชนิด ไม่มีถนน การเดินทางต้องใช้เกวียนและม้าเป็นพาหนะ แม่ไปเที่ยวหัวหินกับคุณตาและครอบครัว และไปอยู่หัวหินครั้งละนาน ๆ จึงมีความประทับใจและรักหัวหินมากตั้งแต่นั้นมา
สมัยรุ่นสาว แม่ได้ตามเสด็จเสด็จพระองค์อาทรฯ ไปเมืองบันดุง ชวา เพื่อทรงเยี่ยมสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี โดยพำนักอยู่ในหมู่ตำหนักของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต แม่ได้เที่ยวชวาและบาหลีเมือ พ.ศ. ๒๔๗๗
แม่แต่งงานเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖ ปลายสงครามโลกครั้งที่ ๒ โดยญาติผู้ใหญ่เป็นผู้นำพ่อมาสู่ขอ ต่อมาเมื่อมีลูกคนแรก แม่ต้องอพยพพาลูกที่ยังเป็นทารกหนีลูกระเบิดตามเสด็จเสด็จพระองค์อาทรฯ ไปอยู่ที่พระราชวังบางปะอิน จนกระทั่งสงครามสิ้นสุดลง
หนังสือเล่มนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตแม่ ไม่ใช่ประวัติชีวิตฉบับสมบูรณ์ เพราะเป็นเรื่องที่แม่บอกเล่าเท่านั้น เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตที่ผ่านมาประทับในความทรงจำของแม่ไม่ลืมเลือน แม้แม่มีอายุถึง ๙๙ ปีแล้ว ข้าพเจ้าเห็นว่าชีวิตของแม่เป็นเรื่องน่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันไม่มีใครรู้จักหรือมีประสบการณ์เช่นเดียวกับแม่ และในอนาคตคงจะไม่มีใครพบเห็นอีกต่อไป จึงนำเรื่องที่แม่เคยพูดให้ฟังมาเล่าต่อในหนังสือนี้ อนึ่ง เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเหตุการณ์ที่แม่พูดถึงได้ชัดเจนขึ้น ข้าพเจ้าได้นำเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่เกี่ยวข้องจากการค้นคว้าแหล่งข้อมูลอื่น ๆ มาประกอบเพิ่มเติมจากสิ่งที่แม่บอกเล่าเองด้วย หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้ด้านประวัติศาสตร์สังคม และมีความสนุกเพลิดเพลินจากการอ่านหนังสือเล่มนี้บ้างตามสมควร